หลังจากหายไปหลายวัน เข้าไปเช็คเมล ก็ได้รับ forward mail จากเพื่อนเห็นว่ามีความหมายลึกซึ้งกินใจดี ก็เลยเอามาเก็บไว้ในบล็อกซะเลย เผื่อเพื่อนๆ ที่ผ่านไปมาจะได้อ่านด้วย เนื้อหาก็ประมาณว่า
มีคนสองคนเป็นเพื่อนซี้กัน และได้ร่วมเดินทางไปในทะเลทรายด้วยกัน ระหว่างทางเกิดการโต้เถียงกัน จนอีกฝ่ายหนึ่งพลั้งมือตบหน้าอีกฝ่าย คนที่ถูกทำร้าย เจ็บปวด แต่ก็ไม่เอ่ยวาจาใด กลับเขียนลงบนผืนทรายว่า “วันนี้…เพื่อนรักของฉันตบหน้าฉัน”
พวกเขายังเดินทางต่อไปจนกระทั่งถึงแหล่งน้ำ พวกเขาตัดสินใจอาบน้ำชำระร่างกาย พลันคนที่ถูกตบหน้ากลับจมน้ำ เพื่อนอีกคนไม่รั้งรอ เข้าไปช่วยชีวิต คนที่รอดตายยังคงไม่เอ่ยวาจาใด กลับสลักลงไปบนหินใหญ่ว่า “วันนี้…เพื่อนรักได้ช่วยชีวิตฉันไว้”
อีกคนไม่เข้าใจ เลยถามว่า…”เมื่อถูกฉันตบหน้าเธอเขียนลงทราย แล้วทำไมเมื่อครู่ถึงสลักลงบนหิน”
อีกคนก็ยิ้มแล้วตอบว่า…
“เมื่อถูกคนที่เรารักทำร้าย เราควรเขียนมันไว้บนทราย ซึ่งสายลมแห่งการให้อภัย จะทำหน้าที่พัดผ่านลบล้างไม่มีเหลือ แต่เมื่อมีสิ่งที่ดีเกิดขึ้นมากมาย เราควรสลักมันไว้บนหินแห่งความทรงจำในหัวใจ ซึ่งต่อให้มีสายลมแรงเพียงใด ก็ไม่อาจลบล้าง ทำลายได้”
เป็นไงบ้างครับ ซึ้งกินใจรึป่าว