หลักการเลือกพันธุ์ไม้มงคลให้เหมาะสมกับทิศ

การจะปลูกต้นไม้แต่ละชนิดนั้น เราควรทำความรู้จักกับต้นไม้ให้ดีเสียก่อนว่า ต้นไม้แ่ต่ละชนิดต้องการน้ำและแสงแดดมากน้อยแค่ไหน ตำแหน่งที่่ควรปลูกต้นไม้ที่ให้ร่มเงาคือ ทิศใต้และทิศตะวันตก เพราะช่วงหลังเที่ยงแดดจะจัด เป็นต้น

1. ทิศเหนือ
ถ้าหากอาคารมีความสูงมากกว่าหนึ่งชั้น เงาของบ้านจะทำให้ต้นไม้ที่ปลูกอยู่ใกล้บ้านได้รับแสงแดดไม่เพียงพอ ดังนั้น เราควรเลือกพันธุ์ไม้ที่ชอบร่ม เช่น สาวน้อยประแป้ง เขียวหมื่นปี พลูชนิดต่างๆ และพันธุ์ไม้ประเภทไม้ใบอยู่ในที่ร่มได้ เช่น พลูเลื้อยต่างๆ พลูกำมะหยี่ พลูทอง เฟิร์น ไม้ตระกูลหนวดปลาดุก เปปเปอร์ฯ และลิ้นมังกร

2.ทิศใต้
ทิศใต้จะเป็นทิศที่แดดเข้าตลอดทั้งวันและเกือบจะตลอดทั้งปี เพราะประเทศไทยของเราพระอาทิตย์จะอ้อมทิศใต้เป็นเวลานาน การใช้ต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาจึงเป็นทางเลือกอย่างหนึ่ง ดังนั้น พันธุ์ไม้ที่เลือกปลูกควรจะมีใบทึบด้านบนและมีความโปร่งด้านล่าง เพื่อให้มีลมพัดผ่านเข้าบ้าน

พันธุ์ไม้ที่เหมาะสมกับทิศใต้ก็จะมี สารภี มะขาม แค เพราะใบไม่ร่วงมากจนเกินไป สำหรับพันธุ์ไม้ที่ให้ดอกสวยงาม แต่ผลัดใบทั้งต้นในบางฤดูได้แก่ ราชพฤกษ์ กัลปพฤกษ์ กระพี้จั่น เสลา หางนกยูง เหลืองอินเดีย ส่วนพันธุ์ไม้ที่มีกลิ่นหอมคือ จำปี จำปา โมก พิกุล ประยงค์ แก้ว กันเกรา ปีบ ตีนเป็ดน้ำ และลำดวน

3.ทิศตะวันตก
ทิศนี้จะได้รับแสงแดดจัดตลอดทั้งบ่าย ควรปลูกไม้ที่ให้ร่มเงา อาจเป็นพันธุ์ไม้ที่ออกดอกตามฤดูกาล เช่น เสลา ราชพฤกษ์ กัลปพฤกษ์ ประดู่แดง ประดู่อินเดีย พันธุ์ไม้ทิศนี้จะทำหน้าที่ป้องกันแดดในช่วงบ่าย ช่วยให้ผนังบ้านด้านนี้เย็น ช่วยประหยัดพลังงานในเวลาค่ำคืน ซึ่งถ้าหากไม่ีมีพื้นที่บ้านมากพอที่จะปลูกต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา อาจปลูกหมากเขียว หมากเหลือง และกล้วยก็ได้ หรือถ้าหากไม่มีพื้นที่เหลือจริงๆ ก็อาจจะเป็นพันธุ์ไม้ไต่ผนัง เช่น ตีนตุ๊กแก ดีปลี หรือพลูบางชนิดจช่วยกันแดดได้ดี

4.ทิศตะวันออก
ทิศนี้จะได้รับแสงแดดครึ่งวัน พอหลังเที่ยงแล้วจะได้รับร่มจากเงาของบ้าน ดังนั้น ควรปลูกไม้ที่ไม่ต้องการแดดตลอดทั้งวัน เช่น ไผ่ เพราะใบจะร่วงน้อยเมื่อได้แดดตอนเช้า หรือพันธุ์ไม้ที่มีใบเล็กๆ เช่น ปีบ เลี่ยน โมก พู่ชมพู มะขามป้อม ไผ่เลี้ยง อรพิม แ่ต่ถ้าต้องการปลูกไม้พุ่มก็ให้ปลูก ฤษีผสม เฟิร์น ไผ่แคระ ไม้ตระกูลใบเงิน ใบทอง ใบนาก และหมากผู้หมากเมีย